นักบิด, มหาเศรษฐี, และฉัน

Last ned <นักบิด, มหาเศรษฐี, และฉัน> gratis!

LAST NED

5

กลางดึกสงัด

ท้องถนนเงียบเชียบ ไร้รถรา ไร้ผู้คน มีเพียงเสียงฝีเท้าเบาหวิวของเธอกับเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามก้องอยู่เบื้องหลัง

หญิงสาวผมบลอนด์หอบหายใจอย่างหนักหน่วงและเจ็บปวด

เท้าเปล่าของเธอกระทบพื้นทางเท้าเย็นเฉียบขณะที่เธอกระชับเสื้อฮู้ดตัวโคร่งรอบกายให้แน่นขึ้น

ขาของเธอร้อนผ่าว ปอดแทบจะลุกเป็นไฟ แต่เธอก็ไม่หยุด

เธอหยุดไม่ได้

ไม่ใช่ในตอนที่เสียงยางบดถนนยังคงดังลั่นอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ในตอนที่แสงไฟหน้ารถจ้าแสบตากำลังไล่ตามเงาของเธอ

เธอเลี้ยวเข้าไปในตรอกซอกซอย ภาวนา...ได้แต่ภาวนา...ให้มันมีทางไปต่อที่ไหนสักแห่ง ที่ไหนก็ได้

แต่มันไม่มี

ทางตัน

เธอหมุนตัวกลับ

พวกมันตามมาทันแล้ว

มอเตอร์ไซค์คันยักษ์ห้าคัน เสียงเครื่องยนต์ของพวกมันคำรามราวกับสัตว์ป่า

คนขี่แต่ละคนสวมแจ็กเก็ตหนังและหมวกกันน็อกรูปหัวกะโหลก

หนึ่งในนั้นเบิ้ลเครื่องยนต์ดังขึ้น เป็นเชิงเยาะเย้ย อีกคนถอดหมวกกันน็อกออก เผยให้เห็นรอยแผลเป็นพาดผ่านแก้มและรอยยิ้มบิดเบี้ยว

“แหม แหม” เขาเอ่ย น้ำเสียงเจือความขบขัน “ดูสิว่าเราเจออะไรเข้า”

เธอถอยหลังจนแผ่นหลังชนกับกำแพง มือทั้งสองข้างสั่นระริก

“ได้โปรด...” เธอกระซิบ เสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ที่รัก” หนึ่งในนั้นพูดพลางก้าวลงจากรถ “พวกเราแค่อยากจะคุยด้วยเฉยๆ”

แต่แววตาของพวกมันบอกเป็นอย่างอื่น

เธอชำเลืองมองซ้ายทีขวาที ไม่มีประตู ไม่มีทางออก

หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก

เสียงรองเท้าบู๊ตหนักๆ ดังสะท้อนไปทั่วตรอก ก่อนที่เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์จะทันได้เงียบลงด้วยซ้ำ

ฮาร์ลีย์สีดำคันหนึ่งเบรกเสียงดังเอี๊ยดจนหยุดนิ่งอยู่หน้าคนอื่นๆ ทั้งแก๊งเงียบกริบ ราวกับฝูงหมาป่าที่ก้มหัวให้จ่าฝูง

เขาคนนั้นก้าวลงมา

เรซ แมดดอกซ์

ราชาแห่งท้องถนน ร่างกายห่อหุ้มด้วยชุดหนังสีดำ รอยสักเลื้อยขึ้นไปถึงลำคอ โซ่ห้อยจากกางเกงยีนส์ และปืนสีเงินเย็นเยียบที่ถูกกุมไว้ในมืออย่างหลวมๆ ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย

ทีแรกเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินเข้าไปหาหญิงสาว...ช้าๆ...ใจเย็น...ราวกับว่าเขามีเวลาทั้งโลกอยู่ในมือ

ริมฝีปากของเธอสั่นระริก หัวเข่าอ่อนแรงแทบจะทรุดลงกับพื้น

แล้วน้ำเสียงของเขาก็ดังขึ้น ทุ้มต่ำราวกับเสียงฟ้าร้องเตือนภัย

“เรด...อยู่ไหน?”

หญิงสาวสะดุ้งกับเสียงนั้น สายตาของเธอจับจ้องไปยังปืนที่เขาค่อยๆ ยกขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแล้วเล็งตรงมาที่หว่างคิ้วของเธอ

“ฉะ-ฉันไม่รู้” เธอพูดตะกุกตะกักพลางยกมือที่สั่นเทาขึ้น “ฉันสาบาน...ฉันไม่เห็นเธอเลยตั้งแต่หลังออกจากสตริปคลับ”

ดวงตาของเขาไม่กะพริบ นิ้วของเขายังคงวางนิ่งอยู่บนไกปืน

“ฉันสาบาน!” เธอร้องเสียงดังขึ้น เริ่มตื่นตระหนก “หลังจากพวกเราเต้นเสร็จ เธอก็หายตัวไปเลย! ฉันคิดว่าเธอไปกับลูกค้า แต่ก็ไม่มีใครเห็นเธอออกไป ได้โปรด...ฉันพูดความจริงนะ”

เรซเอียงคอเล็กน้อย จ้องมองสำรวจเธอ ความเงียบของเขาดังกว่าเสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์เสียอีก

ลูกน้องที่เหลือได้แต่ยืนมอง ไม่มีใครกล้าปริปากพูด มีเพียงเสียงลมหายใจหอบหนักอย่างหวาดกลัวของหญิงสาวเท่านั้น

“สตริปคลับงั้นเหรอ” เรซพึมพำกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับใคร

ในที่สุดเขาก็ลดปืนลง...เพียงเล็กน้อย

“ไปสืบมาว่าเธอไปกับใคร” เขาสั่งลูกน้องโดยไม่ละสายตาไปจากหญิงสาว “แล้วก็ปิดคลับซะ ห้ามใครเข้าออกจนกว่าฉันจะสั่ง”

แล้วเขาก็ก้าวเข้ามาใกล้ ใกล้จนหญิงสาวมองเห็นคราบเลือดจางๆ บนเสื้อของเขา

“ถ้าแกโกหก...” เขาพึมพำ “ก็ภาวนาให้ใครสักคนเจอตัวเรดก่อนฉันก็แล้วกัน”

หญิงสาวผมบลอนด์ตัวสั่นเทา มาสคาร่าเลอะเปรอะเปื้อน ริมฝีปากสั่นระริก

“ฉะ-ฉันคิดว่า...” เธอพูดตะกุกตะกัก สายตาหลุบลงมองพื้นราวกับหวาดกลัวคำพูดของตัวเอง “เรดอาจจะ... ออกไปกับลูกค้า”

ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกจากปาก บรรยากาศก็พลันเปลี่ยนเป็นอันตราย

เรซสะบัดหน้าขวับไปทางเธอเร็วเสียจนลูกน้องคนหนึ่งของเขาถึงกับถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“กล้าดีนี่?” เขาเอ่ย น้ำเสียงคมกริบราวกับเศษแก้วแตก

ขากรรไกรของเขาขบแน่น ดวงตาแข็งกร้าวขึ้น นั่นคือความเดือดดาลเงียบเชียบแสนอันตรายที่มักจะเกิดขึ้นก่อนมีใครสักคนต้องเจ็บตัว

“หล่อนกล้าดีงั้นเหรอ?” เขาทวนคำ พายุอารมณ์เริ่มก่อตัวขึ้นในน้ำเสียง “มีแค่กูคนเดียวเท่านั้นที่สมควรได้ครั้งแรกของเธอไป...”

หญิงสาวกัดริมฝีปาก กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างยากลำบาก หวาดกลัวสุดขีดว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป

เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธออีก ความสนใจของเขาเปลี่ยนไปราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนอีกต่อไป

เขาหันไปหาลูกน้อง “แยกย้ายกันไป กูอยากให้มีคนจับตาดูทุกถนน ทุกคลับ ทุกซอกซอยในเมืองนี้”

น้ำเสียงของเขากดต่ำลงราวกับเสียงคำราม “ถ้ายังไม่เจอตัวเรดก็ไม่ต้องกลับมา กูต้องการผลงาน ไม่ใช่ข้อแก้ตัว”

เหล่าลูกน้องขยับทันที แยกย้ายกันไปราวกับเงาที่เคลื่อนไหวตามคำสั่ง

เรซยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง จ้องมองไปยังความว่างเปล่า—แล้วจึงเหน็บปืนกลับเข้าที่ขอบกางเกง

“ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน เรด” เขาพึมพำกับตัวเอง “เธอเป็นของฉัน และฉันกำลังจะไปหา”

“ไสหัวไป” เรซ แมดด็อกซ์ เอ่ยอย่างเย็นชา

สาวผมบลอนด์ไม่รอช้า เธอพรวดพราดลุกขึ้นยืนราวกับชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย—ซึ่งมันก็อาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ—แล้ววิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามอง เสียงส้นสูงของเธอดังกระทบพื้นทางเท้าก่อนจะหายลับไปในความมืดมิดของรัตติกาล

เธอโชคดี โคตรจะโชคดี

เรซไม่เคยปล่อยให้ใครรอดไปง่ายๆ

เขาคือราชาแห่ง ‘แก๊งอสรพิษ’ ชมรมมอเตอร์ไซค์ที่น่าเกรงขามที่สุดในเมืองนี้ แค่ได้ยินชื่อ พวกผู้ชายก็เหงื่อตก ส่วนพวกผู้หญิงก็เอาไปลือกันให้แซ่ด โหดเหี้ยม เลือดเย็น และแตะต้องไม่ได้—นั่นคือเรซ แมดด็อกซ์

มีข่าวลือมากมาย ว่ากันว่าเขาเคยเผาบาร์ทั้งร้านเพียงเพราะมีคนมองหน้าเขาผิดที่ผิดทาง ว่ากันว่าเขาเคยฝังคนทั้งเป็นเพราะดันมาแตะต้องของที่เป็นของเขา ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับเขา—ถ้ายังอยากมีลมหายใจในวันรุ่งขึ้น

แต่ถ้าจะมีจุดอ่อนสักอย่างในหัวใจของเขา—หากว่าเขามีหัวใจน่ะนะ—สิ่งนั้นก็คือเรด

เธอคือความหลงใหลของเขา

รักแรกในวัยเด็ก

ผู้หญิงคนเดียวที่เขาเคยใส่ใจ

เขายังจำได้ถึงมือเล็กๆ ของเธอในมือของเขา เสียงหัวเราะของเธอที่ดังก้องไปทั่วถนนขณะที่เขาไล่ต่อยเด็กผู้ชายที่ทำให้เธอร้องไห้ แม้แต่ตอนเป็นเด็ก เรซก็เป็นตัวอันตราย แต่สำหรับเรดแล้ว เขากลับเป็นผู้พิทักษ์ เป็นเกราะกำบัง เป็นเงาลับๆ ที่คอยคุ้มครองเธอ

และวันเวลาก็ยิ่งทำให้มันเลวร้ายลง

เขาเตือนเธอ—มากกว่าหนึ่งครั้ง

“ห้ามผู้ชายหน้าไหนแตะต้องตัวเธอ นอกจากกูแล้ว ห้ามใครได้ครั้งแรกของเธอไป”

นั่นไม่ใช่คำขอร้อง แต่มันคือคำสัญญา

คำสัญญาที่เธอไม่ควรคิดจะผิดคำขาด

เพราะถ้าเธอทำ... ก็จะไม่มีทางหนีจากสิ่งที่จะตามมาได้พ้น

สมาชิกคนหนึ่งของแก๊งอสรพิษเดินเข้ามา หมวกกันน็อกหนีบไว้ใต้แขน ศีรษะก้มลงเล็กน้อย “บอส” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้าวกร้าน “เราตรวจสอบทุกซอกทุกมุมของสตริปคลับแล้วครับ คุยกับพวกผู้หญิง เจ้าของร้าน หรือแม้แต่ภารโรง ก็ไม่มีใครเห็นเธอเลยตั้งแต่เที่ยงคืน”

เขาลังเลไปชั่วครู่

“เธอ... ถูกแจ้งว่าเป็นบุคคลสูญหายแล้วครับ”

Forrige kapittel
Neste kapittel